การออกแบบสนามสำหรับสุนัขไม่เพียงแต่ช่วยให้สุนัขได้ออกกำลังกายและคลายเครียด แต่ยังเสริมสร้างพัฒนาการทั้งด้านร่างกายและจิตใจ ด้วย "เครื่องเล่นสุนัข" ที่เหมาะสม สนามจะกลายเป็นพื้นที่ที่ปลอดภัย สนุกสนาน และเป็นมิตรกับสุนัขทุกสายพันธุ์และขนาด
แบ่งโซน: ควรแบ่งพื้นที่อย่างชัดเจน โดยเฉพาะหากมีสุนัขหลายขนาด:
โซนสุนัขเล็ก/สุนัขที่ไม่คุ้นเคย: พื้นที่สำหรับสุนัขน้ำหนักเบาหรือสุนัขที่ขี้อาย
โซนสุนัขใหญ่/สุนัขพลังงานสูง: พื้นที่กว้างขวางสำหรับวิ่งเล่นและกิจกรรมที่ต้องใช้พละกำลัง
ประตูทางเข้า-ออก: ควรใช้ระบบประตูสองชั้น (Double-Gated Entry) เพื่อป้องกันสุนัขหลุดออกไปนอกพื้นที่
เมื่อมีคนเข้า-ออก
รั้วกั้น: รั้วต้องมีความสูงที่เหมาะสม (แนะนำ 5-6 ฟุต) และมั่นคงแข็งแรง ป้องกันสุนัขกระโดดข้ามหรือมุดลอด
พื้นผิวต้องสบายเท้าสุนัข ทำความสะอาดง่าย และระบายน้ำได้ดี
เครื่่องเล่นควรทำจากวัสดุที่ทนทานต่อสภาพอากาศและการกัดแทะ (เช่น พลาสติก PE, ไม้ที่ผ่านการบำบัด,
โลหะเคลือบ) และพื้นผิวต้องไม่ลื่น:
อุโมงค์ลอด (Tunnels): ควรมีความกว้างที่ปลอดภัย และมีจุดยึดที่มั่นคงเพื่อไม่ให้เคลื่อนที่ขณะสุนัขวิ่งเข้า
ทางลาด/สะพาน (Ramps/A-Frame): ควรมีพื้นผิวที่ยึดเกาะได้ดี (เช่น มีแผ่นยางหรือแถบกันลื่น) และมีความสูงที่เหมาะสม
ห่วงลอด (Hoop Jumps): ควรปรับระดับความสูงได้ และถอดออกได้ง่ายในกรณีที่สุนัขชน เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
เสาวิ่งสลับฟันปลา (Weave Poles): ติดตั้งในระยะห่างที่ได้มาตรฐาน (ประมาณ 24 นิ้ว) เพื่อฝึกความคล่องตัว
เครื่องเล่นทรงตัว (Balance Beam/Dog Walk): ควรมีความกว้างที่มั่นคง และมีทางลาดขึ้น-ลงที่ปลอดภัย
หากคุณกำลังมองหาเครื่องเล่นสุนัขคุณภาพสูงพร้อมการออกแบบสนามสุนัขที่ตอบโจทย์ทุกความต้องการของสุนัขและเจ้าของ Kid+D เราคือผู้เชี่ยวชาญในการจำหน่ายเครื่องเล่นสุนัขคุณภาพ พร้อมบริการออกแบบสนามสุนัขที่เหมาะสมกับพื้นที่และความต้องการของคุณ ไม่ว่าคุณจะมีพื้นที่ขนาดเล็กหรือใหญ่ เราสามารถออกแบบให้เหมาะสมและปลอดภัยสำหรับสุนัขทุกสายพันธุ์และขนาด พร้อมทั้งให้คำแนะนำในการเลือกเครื่องเล่นที่เหมาะสมเพื่อให้สุนัขของคุณได้ออกกำลังกายและสนุกสนานในพื้นที่ที่มีความปลอดภัยสูงสุด
KIDTOPLAY